วันพฤหัสบดีที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2556

ภูมิปัญญา

ภูมิปัญญา

ภูมิปัญญา (Wisdom) เป็นความคิดทางสังคมที่สำคัญอย่างหนึ่ง ซึ่งสังคมขนาดใหญ่พอควร และดำรงอยู่ได้ยาวนานย่อมต้องมีด้วยกันทุกสังคม สังคมไทยเป็นสังคมเก่าแก่สังคมหนึ่ง จึงปรากฏเป็นภูมิปัญญาเช่นนี้อยู่จำนวนมาก ภูมิปัญญาเหล่านี้นอกจากแสดงความเป็นไทย เป็นเอกลักษณ์ไทยที่สำคัญอย่างหนึ่งแล้ว ยังเป็นเครื่องชี้วัดความเจริญและพัฒนาการของคนในชาตินั้น ทั้งนี้เพราะภูมิปัญญาเป็นสิ่งละเอียดอ่อน ชาติที่เจริญ มีสังคมที่สงบสุขร่มเย็น ไม่ระส่ำระส่ายและมีความเป็นมิสระ จึงสามารถสร้างสรรค์และสั่งสมภูมิปัญญาเฉพาะตนขึ้นมาได้
จากการศึกษาความหมายซึ่งครอบคลุมคำว่า ภูมิปัญญา ภูมิปัญญาพื้นบ้าน ภูมิปัญญาชาวบ้าน ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทย จะมีความหมายในแนวเดียวกันสามารถรวบรวมสรุป ดังนี้
ภูมิปัญญาเป็นเรื่องที่สังสมกันมาตั้งแต่อดีต และเป็นเรื่องการจัดการความสัมพันธ์ระว่างมนุษย์กับสิ่งต่างๆ โดยผ่านกระบวนการทางจารีตประเพณี วิถีชีวิต การทำมาหากิน และพิธีกรรมต่างๆ เพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างความสัมพันธ์เหล่านี้ เป้าหมาย คือ เพื่อให้เกิดความสุขทั้งในส่วนที่เป็นชุมชน หมู่บ้าน และในส่วนที่เป็นปัจเจกของชาวบ้านเอง ถ้าหากเกิดปัญหาความไม่สมดุลขึ้น ก็จะก่อให้เกิดความไม่สงบสุข เกิดในหมู่บ้านและชุมชน ภูมิปัญญายังหมายถึง ประสบการณ์ในการประกอบอาชีพ ในการศึกษาเล่าเรียนด้วย (ปรีชา  อุยตระกูล ๒๕๓๑ : ๙)
ภูมิปัญญาชาวบ้านนั้นหมายถึง ความรู้ประสบการณ์ของประชาชนในท้องถิ่น ซึ่งได้รับการศึกษาอบรม สั่งสมและถ่ายทอดจากบรรพบุรุษ หรือมีความรู้ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นจากประสบการณ์ตรงของตนเองซึ่งได้เรียนรู้จากการทำงาน จากธรรมชาติแวดล้อม สิ่งเหล่านั้นเป็นสิ่งที่มีคุณค่าเสริมสร้างความสามารถทำให้คนมีชีวิตร่วมกันอย่างสัติสุขเป็นความรู้ที่สร้างสรรค์และมีส่วนเสริมสร้างการผลิต(ชลทิตย์   เอี่ยมสำอางและวิศนี   ศิลาตระกูล ๒๕๓๔ : ๒๑๑)
กรมการศึกษานอกโรงเรียน กล่าวว่า เป็นการเชื่อมโยงไปถึงประสบการณ์ความรู้ทั้งทางตรงของคนในท้องถิ่น ที่ได้จากการสะสมประสบการณ์จากการทำงาน การประกอบอาชีพและการเรียนรู้จากธรรมชาติแวดล้อมต่างๆ และถ้าพิจารณาภูมิปัญญาท้องถิ่นเฉพาะด้านที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีแล้วนั่นหมายถึง เทคนิควิทยาพื้นบ้านได้ว่าสามารถทำสิ่งต่างๆได้อย่างไร โดยมีองค์ปรระกอบ ๒ ประการ คือเครื่องมือในการทำสิ่งนั้นๆ ซึ่งสามารถแยกได้ในลักษณะความรู้ที่เป็นรูปธรรมและนามธรรม ที่มีความสัมพันธ์กับสภาพแวดล้อมและความจำเป็นในท้องถิ่น ในอันที่เป็นทางเลือกในการดำรงชีวิตของคนในที่นั้นๆ(กฤษณา   วงษาสันต์,๒๕๔๒ : ๕๓)
ภูมิปัญญา คือ ความรู้ ความคิด ความเชื่อ ความสามารถ ความจัดเจนที่กลุ่มชนได้จากปรระสบการณ์ที่สั่งสมไว้ในการปรับตัวและดำรงชีพในระบบนิเวศน์ หรื่อสภาพแวดล้อมธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมทางสังคม-วัฒนธรรม ที่ได้พัฒนาสืบสานกันมาเป็นความรู้ ความคิอ ความเชื่อ ความสามารถ ความชัดเจน ที่เป็นผลของการใช้สติปัญญาปรับตัวกับสภาวต่างๆ ในพื้นที่ชุมชนนั้นตั้งถิ่นฐานอยู่(เอกวิทย์    ถลาง ๒๕๔๐ : ๑๑-๑๒)
ภูมิปัญญา หมายถึง ส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมที่เป็นความรู้ ความคิด ความสามารถ  ความเห็น ความเชื่อ ความนิยม ความฉลาดรอบคอบในสิ่งต่างๆที่เกี่ยวข้องกับที่อยู่อาศัย การทำมาหากิน วิถีชีวิต การป้องกันโรคภัยไข้เจ็บ และการใช้ภาษาที่เกิดขึ้นสั่งสม พัฒนา ใช้สืบต่อจนเป็นมรดกตกทอดของพื้นบ้านมาแต่โบราณ (เอี่ยม  ทองดี ๒๕๓๙ : ๖๐)
จากความหมายของภูมิปัญญาที่กล่าวมา อาจสรุปได้ว่า ภูมิปัญญา หมายถึง รากฐานความรู้ ความคิด ค่านิยม ความเชื่อ ความฉลาด ไหวพริบ  ทั้งในสิ่งที่เป็นนามธรรมและเป็นรูปธรรมของชาวบ้านในสังคมหนึ่งๆ ทั้งที่เกิดจากประสบการณ์ด้ายตนเอง หรือเป็นประสบการณ์เดิมผสานกับความรู้ใหม่ที่มีการสืบทอดต่อๆกันมาภายในสังคม ซึ่งสามารถนำมาใช้ประโยชน์และช่วยแก้ปัญหาในการดำรงชีวิต เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม ทั้งทางธรรมชาติ และสภาพสังคมวัฒนธรรม

ที่มาของภูมิปัญญา
ภูมิปัญญาของมนุษย์ในระดับบุคคลหรือกลุ่ม ประกอบไปด้วย ๓ ส่วน คือ
๑)     ส่วนที่เป็นประสบการณ์โดยตรงของชีวิตผู้นั้นหรือกลุ่ม
๒)    ส่วนที่ได้รับจากความรู้ ความคิดของผู้อื่นจากประสบการณ์หรือกลุ่มอื่น
๓)    ส่วนที่ปราชญ์สังเคราะห์ขึ้นใหม่ จากประสบการณ์ของตนเองและจากคำบอกเล่าสั่งสอนของผู้อื่น
องค์ประกอบของภูมิปัญญา
ภูมิปัญญามีลักษณะเป็นนามธรรม มีประกอบดังนี้
๑.ความคิด เป็นสิ่งที่ติดตัวมาแต่กำเนิด ที่เรียกว่า Cognitive  System ซึ่งประกอบด้วย ระบบประสาท ระบบสมอง และต่อมต่างๆ ทำหน้าที่คิดให้แก่ร่างกาย และนักมนุษวิยาเชื่อว่าทำงานอยู่นอกเหนือจากการบงการของร่างกาย หมายถึง ทั้งส่วนที่เป็นจิตนาการและผลของการวิเคราะห์และสังเคราะห์จากสภาพแวดล้อมทั้งทางธรรมชาติและสังคมวัฒนธรรม ซึ่งความคิดดังกล่าวนี้จะเป็นแหล่งสำคัญหรือที่มาของความรู้อันเป็นองค์ประกอบของภูมิปัญญาในลำดับถัดไป
๒.ความรู้ มีการนำมาใช้ในลักษณะต่างๆ เช่น องค์ความรู้ ภูมิรู้ ปรากฏอยู่ในแนวคิดทฤษฎีหลายที่ เช่น ทฤษฎีญาณวิทยา ว่าด้วยทฤษฎีแห่งความรู้ สืบค้นกำเนิดแห่งความรู้ และธรรมชาติของความรู้ หาคำตอบว่าตรงกับความเป็นจริงหรือไม่ หรือว่าความรู้เป็นเพียงการพิจารณาเทียบเคียง ซึง่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง และยังสืบค้นความรู้เรื่องกาล(Time) อวกาศ(Space) เนื้อสาร (Substance) สัมพันธภาพ(Relation)และความเป็นเหตุเป็นผล(Causality) องค์ความรู้ หรือความรู้เป็นสิ่งที่ใช้แสดงหรือยืนยันสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ซึ่งนักปราชญ์หลายคนได้จัดองค์ความรู้เป็นหมวดๆ(Category) ความรู้ หรือองค์ความรู้เป็นส่วนหนึ่งขององค์ประกอบภูมิปัญญาที่กล่าวข้างต้น
๓.ความเชื่อ เป็นพื้นฐานสำคัญยิ่งของสังคมมนุษย์ มนุษย์แต่ละกลุ่มมีความเชื่อแตกต่างกันออกไป ซึ่งความเชื่อก็คือความศรัทธา หรือความยึดมั่นถือมั่นที่เป็นซึ่งแก่นสำคัญในการดำเนินชีวิตและความมั่นคงของสังคม ความเชื่อมีอยู่หลายระดับ ทั้งในการดำเนินชีวิตประจำวันอันเป็นความเชื่อโดยทั่วไปและความเชื่อที่เกี่ยวกับจิตวิญาณโลกนี้ โลกหน้า ความดี ความชั่ว นรก สวรรค์ บาปบุญคุณโทษ ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญยิ่ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น