แนวข้อสอบวิชาเศรษฐกิจพอเพียง
ข้อสอบทั้งหมด 80 ข้อ (ข้อกา)
-ความหมายของวิถีชีวิตเศรษฐกิจพอเพียง -ปัญหาที่ทำให้คนไม่พอเพียง -สาเหตุของปัญหาที่ไม่พอเพียว
...-หลักสำคัญของเศรษฐพอเพียง(3ห่วง2เงื่อนไข) -แผนพัฒนาเศรษฐกิจ โครงสร้างเศรษฐกิจ แผนยุทธศาสตร์
-การทำบัญชีครัวเรือนได้แนวคิดยังไง -หลักพระพุทธศาสนาในการดำรงชีวิตเศรษฐกิจพอเพียง
-เกษตรทฤษฏีใหม่เป็นยังไง -องค์กรไดให้การยอมรับหลักเศรษฐกิจพอเพียง
-บุคคล กลุ่มประเทศไดที่เข้ามามีบทบาทในแผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ -โครงสร้างเศรษฐกิจ อดีต ปัจจุบัน สังคมชนบทเมื่อก่อนเป็นอย่างไร
-จุดเด่น จุดด้อยของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและระยะเวลาในการเปลี่ยนแผน
พระราชดำรัสเศรษฐกิจพอเพียง
“ขอให้ทุกคนมีความปรารถนา ที่จะให้เมืองไทยพออยู่พอกินมีความสงบ และทำงาน ตั้งอธิษฐาน ตั้งปณิธานในทางนี้ ที่จะให้เมืองไทยอยู่แบบพอกิน ไม่ใช่ว่า จะรุ่งเรืองอย่างยอด แต่มีความพออยู่พอกิน มีความสงบ เปรียบเทียบกับประเทศอื่น ๆ ถ้าเรารักษาความพออยู่พอกินนี้ได้ เราก็จะยอดยิ่งยวดได้ ฉะนั้น ถ้าทุกท่าน ซึ่งถือว่าเป็นผู้มีความคิด และมีอิทธิพล มีพลังที่จะทำให้ผู้อื่น ซึ่งมีความคิดเหมือนกัน ช่วยกันรักษาส่วนรวม ให้อยู่ดีกินดีพอสมควร ขอย้ำพอควร พออยู่ พอกิน มีความสงบไม่ให้คนอื่นมาแย่งคุณสมบัตินี้จากเราไปได้ก็จะเป็นของขวัญวันเกิดที่ถาวรที่จะมีคุณค่า อยู่ตลอดกาล”
พระราชดำรัสเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา
วันที่ ๒๓ ธันวาคม ๒๕๔๒ “เพราะความพอเพียงหมายถึง การที่มีความพอ คือ มีความโลภน้อย เมื่อมีความโลภน้อยก็เบียดเบียนคนอื่นน้อย ถ้าประเทศใดมีความคิดนี้ คนเราก็อาจจะเป็นสุข พอเพียงนี้อาจจะมีมาก อาจจะมีความหรูหราได้ แต่ว่าต้องไม่เบียดเบียนผู้อื่น”
หลักสำคัญคือ ปรัชญา ๓ ห่วง 2 เงื่อนไข ประกอบด้วย หลัก ๓ ห่วง คือ ๑.)ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดีที่ไม่น้อยเกินไปและไม่มากเกินไปโดยไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น ๒.) ความมีเหตุผล หมายถึง การตัดสินใจเกี่ยวกับความพอเพียงนั้น ๆ จะต้องเป็นไปอย่างมีเหตุผลโดยพิจารณาจากเหตุปัจจัยที่เกี่ยวข้องตลอดจนคำนึงถึงผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการกระทำนั้น อย่างรอบคอบ ๓.) การมีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว หมายถึง การเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบและการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นโดยคำนึงถึงความเป็นไปได้ กับ หลัก ๒ เงื่อนไข คือ ๑.) ความรู้ ประกอบด้วยความรอบรู้ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างรอบด้าน ความรอบคอบที่จะนำความรู้เหล่านั้นมาพิจารณาให้เชื่อมโยงกัน เพื่อประกอบการวางแผนไปสู่ขั้นตอนการปฏิบัติ (รอบรู้ รอบคอบ ระมัดระวัง) ๒.) คุณธรรม ที่จะต้องเสริมสร้างประกอบด้วยมีความตระหนักในคุณธรรม ซื่อสัตย์สุจริต และมีความอดทน มีความเพียร ใช้สติปัญญาในการดำเนินชีวิต (ซื่อสัตย์ สุจริต ขยัน อดทน แบ่งปัน )
เกษตรทฤษฎีใหม่ (New Theory )
เป็น ระบบเกษตร ที่เน้นการจัดการแหล่งน้ำ และการจัดสรรแบ่งส่วนพื้นที่ทำการเกษตรอย่างเหมาะสม ซึ่งจะทำให้เกษตรกรมีข้าวปลาอาหารไว้บริโภคอย่างพอเพียงตาม อัตตภาพ อันจะเป็นการแก้ปัญหาในเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกรแล้ว ยังก่อให้เกิดความมั่นคงทางเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแนวทางเกษตรทฤษฎีใหม่ เมื่อ วันที่ 4 ธันวาคม 2540 ซึ่งเป็นช่วงที่ประเทศไทยได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากวิกฤติเศรษฐกิจฟองสบู่ แนวทางเกษตรทฤษฎีใหม่ จึงเป็นหนทางปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม และเป็นฐานรากของแนวคิดเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งหากสร้างระบบเศรษฐกิจที่พึ่งพาตนเองได้ครึ่งหนึ่ง หรือแม้แต่หนึ่งในสี่ของระบบเศรษฐกิจทั้งหมด ก็จะสามารถทำให้ประเทศชาติมีความมั่นคงมากกว่าระบบเศรษฐกิจที่ต้องพึ่งพาการ ส่งออกมากอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
สิ่งที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ พึงตระหนักก็คือแนวทางเกษตรทฤษฎีใหม่ เป็นพระราชดำรัสที่อยู่ภายใต้ปรัชญาเศรษฐกิจแบบพอเพียง โดยให้ความสำคัญกับการผลิต เพื่อตอบสนองต่อความต้องการอาหารในครอบครัว และชุมชนสามารถพึ่งตนเองได้โดยไม่ต้องพึ่งพาปัจจัยการผลิตจากภายนอก ดังนั้นการส่งเสริมการเกษตรทฤษฎีใหม่ใหม่ที่ดำเนินไปพร้อม ๆ กับการส่งเสริมให้มีการใช้ปุ๋ยเคมี และสารเคมีการเกษตร หรือการนำทฤษฎีไปใช้ โดยไม่เข้าใจเนื้อหา และปรัชญาที่อยู่ลึกเบื้องหลัง จะมีผลให้แนวทางการดำเนินการดังกล่าว ไม่ถูกจัดว่าเป็นเกษตรกรรมยั่งยืน (1)
หลักการของ “ทฤษฎีใหม่” (2)
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทาน “ทฤษฎีใหม่” ให้ดำเนินการในพื้นที่ทำกินที่มีขนาดเล็กประมาณ 15 ไร่ ด้วยวิธีการจัดสรรที่ดินให้เหมาะสมกับการเกษตรแบบผสมผสานอย่างได้ผล เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้ใช้จ่ายตลอดปี ซึ่งได้ ดำเนินการอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ซึ่งการพัฒนาตามแนวทาง “ทฤษฎีใหม่” นี้มีความจำเป็นต้องประยุกต์ใช้ในเหมาะสม กับสภาพภูมิประเทศและสิ่งแวดล้อมจึงจะเกิดประโยชน์สูงสุด
ทั้งนี้ ทฤษฎีใหม่ มี 3 ขั้น คือ
"ทฤษฎีใหม่” ขั้นที่หนึ่ง
การผลิตเป็นการผลิตให้พึ่งพาตนเองได้ ด้วยวิธีง่าย ค่อยเป็นค่อยไปตามกำลัง ให้พอมีพอกิน ไม่อดอยาก โดยมีแนวทางสำคัญ ประกอบด้วย
1. ให้เกษตรกรมีความพอเพียง โดยเลี้ยงตัวเองได้ (Self Sufficiency) ในระดับชีวิตที่ประหยัดก่อน
2. ทั้งนี้ ต้องมีความสามัคคีในท้องถิ่น
3. มีการผลิตข้าวบริโภคพอเพียงประจำปีโดยถือว่าครอบครัวหนึ่ง ทำนา 5 ไร่ จะมีข้าวพอกินตลอดปี ข้อนี้เป็นหลักสำคัญของทฤษฎีนี้ “หากชาวนาต้องซื้อข้าวกิน ก็หมดสิ้นความเป็นเกษตรกรไทย”
4. ต้องมีน้ำ 1,000 ลูกบาศก์เมตรต่อไร่แต่ละแปลง (15 ไร่) ทำนา 5 ไร่ ทำพืชไร่หรือไม้ผล ฯลฯ 5 ไร่ (= 10 ไร่) จะต้องมีน้ำ 10,000 ลูกบาศก์เมตรต่อปี
โดยสูตรคร่าวๆ แต่ละแปลงประกอบด้วย
- นา 5 ไร่
- พืชไร่ และสวน ฯลฯ (เช่นไม้สร้างบ้าน สมุนไพร ไม้ใช้สอย ไม้ไผ่ ไม้ผล เป็นต้น) 5 ไร่
- สระน้ำ 3 ไร่ ลึก 4 เมตร ความจุประมาณ 19,000 ลูกบาศก์เมตร (19,200) ปล่อยปลาในสระน้ำ
- ที่อยู่อาศัยและอื่นๆ (โรงเห็ด เล้าสัตว์เลี้ยง แปลงไม้ดอก ฯลฯ) 2 ไร่
รวมประมาณ 15 ไร่ ถ้ามีที่ดินน้อยกว่านี้ เช่น 10 ไร่ ก็แบ่งตามสัดส่วนโดยประมาณ แต่ที่สำคัญต้องทำข้าวให้พอกินทั้งปี
"ทฤษฎีใหม่” ขั้นที่สอง
ให้เกษตรกร รวมพลังกันในรูป กลุ่มหรือสหกรณ์ ร่วมแรงร่วมมือกันในรูป กลุ่มหรือสหกรณ์ ร่วมแรงร่วมมือ
กันในด้านต่างๆ คือ
1. การผลิต (พันธุ์พืช เตรียมดิน ชลประทาน ฯลฯ) 2. การตลาด (ลานตากข้าว ยุ้ง เครื่องสีข้าว การจำหน่ายผลผลิต)
3. การเป็นอยู่ (กะปิ น้ำปลา อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ฯลฯ 4. สวัสดิการ (สาธารณสุข เงินกู้)
5. การศึกษา (โรงเรียน ทุนการศึกษาศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก) 6. สังคมและศาสนา
ด้วยความร่วมมือของหน่วยราชการมูลนิธิและเอกชน
“ทฤษฎีใหม่” ขั้นที่สาม
ติดต่อร่วมมือกับแหล่งเงิน (ธนาคาร) และกับแหล่งพลังงาน (บริษัทน้ำมัน) เพื่อ
1. ตั้งและบริหารโรงสี (2) 2. ตั้งและบริหารร้านสหกรณ์ (1,3) 3. ช่วยการลงทุน (1,2) 4. ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิต (4,5,6)
ทั้งนี้ ฝ่ายเกษตรกรและฝ่ายธนาคารกับบริษัทจะได้รับประโยชน์
1. เกษตรกรขายข้าวและพืชผลการเกษตรในราคาสูง (ไม่ถูกกดราคา)
2. ธนาคารกับบริษัทซื้อข้าวบริโภคในราคาต่ำ (ซื้อข้าวเปลือกตรงจากเกษตรกรและมาสีเอง)
3. เกษตรกร ซื้อเครื่องอุปโภคในราคาต่ำ (เป็นร้านสหกรณ์ราคาขายส่ง)
เศรษฐกิจพอเพียงแนวพุทธ:โดย ดร.สุเทพ สุวีรางกูร
“เศรษฐกิจพอเพียง” เป็นหลักการดำเนินชีวิตทางสายกลางพอประมาณมีเหตุผลมั่นคงยั่งยืน เป็นการบริหารจัดการทรัพยากรทรัพย์สมบัติหรือสิ่งต่างๆ ทั้งหลายที่มีอยู่อย่างถูกต้องพอดีพอประมาณประหยัดโปร่งใสมีระสิทธิภาพประสิทธิผล เพื่อให้อยู่ได้ก้าวทันมั่นคงต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกทางสังคม เป็นหลักการดำเนินชีวิตถูกต้องพอดีมีความสุขของประชาชนทุกระดับชั้น ให้เป็นอยู่เป็นไปพอประมาณมีเหตุผล พึ่งตนเองได้ มีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัวเอง ภายใต้กระแสโลกาภิวัตน์การเปลี่ยนแปลงของสิ่งทั้งหลาย
ตามทัศนะของพระพุทธศาสนา “เศรษฐกิจพอเพียง” ก็คือการเป็นอยู่อย่างพอประมาณมีเหตุผลมั่นคงยั่งยืน (สมชีวิตา) การรู้จักประมาณในการบริโภคใช้สอย (มัตตัญญุตา หรือโภชเน มัตตัญญุตา) การประกอบอาชีพที่สุจริตถูกต้องตามกฎหมายและศีลธรรม (สัมมาอาชีวะ) ความยินดีพอใจในสิ่งของที่ตนได้มาโดยถูกต้องชอบธรรม หรือยินดีพอใจในสิ่งที่ตนได้มีและเป็น (สันโดษ) เป็นการบริหารจัดการระเบียบชีวิตให้สอดคล้องสัมพันธ์กับสิ่งทั้งหลายที่มีอยู่อย่างพอดีมีเหตุผลมีความสุขไร้ปัญหา